ภาพบรรยากาศ
มหกรรมลานรักการอ่าน
จัดโดย...สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ
และการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดอุตรดิตถ์
ณ ลานอเนกประสงค์ สถานีรถไฟอุตรดิตถ์ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
8 เมษายน 2554
วันนี้ไปร่วมงาน มหกรรมลานรักการอ่าน ซึ่งจัดขึ้นที่ลานอเนกประสงค์สถานีรถไฟอุตรดิตถ์ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
พอดีนางฟ้าสองท่านได้รับเชิญไปพูดคุยกับนักอ่านชาวอุตรดิตถ์ด้วย คนขับรถเลยต้องไปด้วยครับ

นี่คือบรรยากาศหน้างาน ผู้คนมาร่วมงานกันมากมาย
ท่ามกลางเปลวแดดที่ร้อนระอุ โอ้ว...

นี่เป็นบู๊ธของศรีพงษ์กรุ๊ป มีหนังสือหลากหลายรูปแบบมาวางจำหน่าย
ในซุ้มที่ตกแต่งเอาไว้สวยงาม (เป็นนิทรรศการขนาดย่อมจัดไว้ในเต็นท์ใครเต็นท์มัน)

ฮ้อนจ้าด..ฮ้อนจ้าด...
เล็งดีๆ จะเห็นหนังสือของบ้านนางฟ้าตั้งโดดเด่นเป็นสง่า
(เจ้าภาพรู้ว่ามีนักเขียนไปเลยเอามาตั้งโชว์เสียหน่อย)

อิปี้ื้ซื้อหนังสือหยังมานิ โอ้ว ม่วนจ้าดหนั๊ก เอาไปอ่านบ้านน้ออิปี้น้อ

บรรดานักเรียน กศน.จากทุกอำเภอจะมาจัดนิทรรศการในบู๊ธของตัวเอง
ให้เพื่อนๆ ต่างอำเภอ แล้วก็ผู้สนใจทั่วไปได้ชมกัน
ซึ่งเราควรเรียกท่านเหล่านี้ว่า เด็กๆ เพราะเป็นนักเรียนอยู่

นี่เป็นตัวอย่างเด็กๆ หารายได้ระหว่างเรียนนะครับ
เพื่อส่งตัวเอง ลูกๆ และพ่อของลูกๆ ด้วยครับ ไม่ยอมเสียเวลาเปล่ากันเลย

อำเภอท่าปลาของเราก็ไปร่วมงานด้วย
ใครใคร่ค้าๆ ใครใคร่คุยๆ นะครับ เม้ากันใหญ่

พอประธานกล่าวเปิดงานเสร็จ
ก็มีพิธีมอบโล่รางวัลกับนักอ่านยอดเยี่ยมที่คัดเลือกมาจากทุกอำเภอ
ตากล้องมามะรุมมะตุ้มถ่ายรูปกันใหญ่

จากนั้นก็เป็นการแสดงจากน้องๆ ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์
เป็นการแสดงชุด รำกลองยาว บรรยากาศดูครึกครื้นขึ้นมาทันตา
มีเครื่องเป่าฟองสบู่ด้วย คักๆๆ

สองสายตาสอดประสานหวานเสียจริง

โฉบโฉมเฉิดฉายอยู่ไปมา
กระเซ้ากระซิกระริกรื่นชื่นอารมณ์

อิดเอื้อนเอียงหายชม้ายมอง
กลิ่นแก้มเนื้อทองทำใจชื้นชื่นภิรมย์

ดูไปเพลินๆ หยอกเิิอินไปเรื่อยเปื่อย อย่าถือคนบ้าอย่าว่า่คนเมา เอ๊ะ ยังไงนะ

ไม่เมาเหล้าแต่เรานั้นเมากลอง นวลน้องต้องจิตพิสมัย
เพิ่งพิศกระหน่ำเพลงบรรเลงไป จากอกพี่ถึงใจแม่น้องนาง

น้องเค้ายิ้มให้ช่างภาพ แต่หันหน้าไปทางอื่น จริงจริ๊งงงง...

ไม่น่าเชื่อว่าแค่ตีกลองสองใบก็สนุกได้แล้ว ยอดเยี่ยมครับ

เป็นหนึ่งในศิลปวัฒนธรรมไทย ที่ควรรักษาไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชม

โอ้ เพลินไปหน่อย หลายรูปเลยครับ

ให้ดูบรรยากาศกว้างๆ เวทีหันหน้าสู้แดดกันเลยทีเดียว

ยังๆ มีแถม ชอบ

อ้าว ใครเนี่ย สองพระนางนี้ ดูรำกลองยาวเพลินไปหน่อย ลืมเลยว่าวันนี้ไปทำไม
หลังจากดูโชว์แล้ว สองนางฟ้าผู้จ้ำม่ำก็พูดคุยกันบนเวที
เบลินญาเหงื่อไหลโซ่กๆๆๆๆ จนพิธีกรต้องขอทิชชู่มาให้
พูดคุยกันสนุกสนานพอเป็นที่บันเทิง แนะนำผลงาน แนะนำบ้านนางฟ้าเล็กน้อย
พิธีกรก็ยอมปล่อยลงมาเพราะกลัวจะมีใครสักคนเป็นลมไปเสียก่อน

ดูชัดๆ ครับ ว่านี่คืองานกลางแจ้งของแท้
ผู้ชมหลบเข้าเต็นท์กันหมดเหลือตากแดดอยู่บนเวทีนั่นแหละครับ
แต่ทุกคนก็สู้ๆ เพื่อจุดประกายให้เมืองอุตรดิตถ์เป็นเมืองรักการอ่านอย่างแท้จริง

พิธีกรในวันนี้ทรหดเป็นพิเศษ
เพราะต้องสัมภาษณ์นักอ่านยอดเยี่ยมบนเวทีอีกร่วม ชั่วโมงครึ่งเห็นจะได้
ขอเสียงปรบมือให้อาจารย์ไวท์ดังๆ ที่ทำให้มีงานในวันนี้ขึ้นคร๊าบ...

นักอ่านยอดเยี่ยม จากทุกอำเภอ

ส่วนในเต็นท์ก็ มีบริการนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพด้วย
หารายได้ระหว่างเรียนกันอีกแล้ว

มีผ้าซิ่นลายน้ำไหล สินค้าโอท็อปประจำตำบล
สวยงามครับ วันหลังจะไปเยี่ยมถึงที่เลย

ให้ดูกว้างๆ

เรื่อยๆ

ตำบลหรืออำเภอไหนมีของดีก็จะใช้โอกาสนี้โปรโมทกันอย่างเต็มที่

ว้าว หนังสือนิยายเพี้ยบเล้ย

หลังจากรอดตาย เอ๊ย หายเหนื่อยแล้ว
ก็มาแอ๊บถ่ายรูปกันซะหน่อย จะแบ๊วไปไหนจ๊ะคุณเบลินญา

ส่วนสตรีผู้ผ่านสถานะอวบระยะสุดท้ายมาแล้วคนนี้ก็คือ นางฟ้าตัวกลมนั่นเอง ฮี่ๆๆๆ

ก่อนกลับก็ได้มอบหนังสือให้กับศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน จ.อุตรดิตถ์ไว้เป็นที่ระทึก
รับมอบโดย อาจารย์ไวท์พิธีกรคนเก่งของเรานั่นเอง
สำนักพิมพ์บ้านนางฟ้า รู้สึกยินดีและขอบคุณทางคณะผู้จัดงานเป็นอย่างยิ่ง
เราดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมดีๆ แบบนี้
สู้ต่อไป ปลูกฝังสำนึกรักการอ่านให้กับน้องๆ เยาวชน และพี่น้องชาวไทยทุกคน
เพื่ออนาคตที่ดีของประเทศชาติของเรา ฮิ้ววววววววววว....
(เอ๊ะ ไม่มีรูปมอบหนังสือให้ ท่าน ผอ.รึ?)
|